เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ถือเป็นข่าวใหญ่สำหรับการผ่าตัดช่วยเต่าตนุ เพศเมีย อายุ 25 ปี หรือ “ออมสิน” ซึ่งมันกินเหรียญเข้าเป็นมากถึง 915 เหรียญ มีนำ้หนักมากถึง 5 กิโลกรัม ถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะคิดมูลค่าราคาของเหรียญ หรือน้ำหนัก เพราะถ้าหากมีเหรียญจำนวนมากขนาดนี้ในท้องของคน ก็คงแย่เช่นกัน ซึ่งขณะนี้ เจ้าออมสินกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นตัวอยู่ที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือสัตหีบ ต่อไป
ในวันนี้ (8 มี.ค.) ทางรายการกรองข่าวเช้านี้ ทางวิทยุเนชั่น FM.102 ได้สัมภาษณ์เปิดใจ รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ หรือหมอหนิ่ง ผุ้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ หนึ่งในทีมแพทย์ผู้รับภาระกิจงานหิน ช่วยเหลือเต่าตัวนี้ โดยได้ถามไถ่ถึงการพบเจอเจ้าออมสิน ความรู้สึกตอนเอาเหรียญออก และหลังผ่าตัดเสร็จ
“เต่าตัวนี้เดิมทีอยู่ที่บ่อเต่าที่สัตหีบ เท่าที่ทราบน่าจะเป็นของเทศบาล เป็นเหมือนบ่อในสวนสาธารณะเปิดให้คนทั่วไปชมเต่าได้ โดยเขายกมาให้ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือสัตหีบเป็นผู้ดูแล ซึ่งที่นั่นก็มีโรงพยาบาลที่คอยดูแลมันอยู่ พอดีตนได้เดินทางไปเยี่ยมคุณหมอที่นั่น และได้พบว่าเต่าตัวนี้มีอาการป่วย โดยสังเกตได้จากมันเดินเอียงซ้ายประมาณ 45 องศา เวลาว่ายน้ำในบ่อก็พยายามไม่ใช้เท้าฝั่งซ้ายเลย ก็เลยขอให้นำมันไปเอ็กซ์เรย์ เราก็พบว่ามีก้อนอะไรใหญ่ๆ อยู่ที่ตัวเขา ซึ่งตอนนั้นเราไม่ทราบว่ามันคืออะไร” หมอหนิ่ง เริ่มกล่าวถึงการพบเจอเจ้าออมสิน
หมอหนิ่งยังเล่าต่อไปว่า ตอนที่เราพบก้อนใหญ่ๆ ในท้องของมัน เราก็หนักใจในวิธีการรักษาเต่าตัวนี้มาก เพราะเราไม่รู้ว่าจะเจออะไร หรือมันคือก้อนอะไร ที่ผ่านมาเราก็เคยมีประสบการณ์เอาของแปลกปลอมออก แต่ไม่เคยเจอใหญ่อย่างนี้ อีกทั้งเรากลัวว่าถ้าสิ่งแปลกปลอมนั้นเป็นของมีคม ก็อาจจะทำให้กระเพาะของมันทะลุ อักเสบในช่องท้องได้ โอกาสรอดก็จะยาก ภายหลังที่ทำซีทีสแกนแบบสามมิติ เราก็รู้ได้เลยว่าสิ่งที่อยู่ในท้องมันก็คือโลหะกลมๆ หรือเหรียญนั่นเอง
ภาระกิจสุดหิน กับการผ่าเอาเหรียญออก ใช้เวลาร่วม 6 ชม.
หมอหนิ่งเล่าถึงความยากในการผ่าเอาเหรียญออกว่า ตัวเจ้าออมสินเองขณะนั้นมีสภาพที่ย่ำแย่แล้ว ปกติแล้วเวลาให้ยาสลบเต่า กว่ามันจะสลบจริงๆ ก็ใช้เวลาประมาณ 15 นาที แต่เจ้าออมสินใช้เวลาเพียง 4 นาทีก็สลบแล้ว แสดงว่าเขาอ่อนเพลียมาก เราก็เริ่มใจหายทันที และเป็นห่วงมากๆ ในตอนผ่า เพราะจะต้องจับเขาหนอนหงาย ซึ่งหมายความว่าเหรียญทั้งหมดจะต้องทับปอดของเขา เราก็เลยผ่าตัดเขาแบบเอียงๆ อาจจะทำให้ภาพออกมาแปลกๆ หน่อย และหมอทำงานลำบากนหน่อย แต่ก็ปลอดภัยสำหรับเขา
ในส่วนของการผ่าเอาเหรียญออกนั้น หมอหนิ่งเล่าว่า ปกติการเปิดกระดองเต่าจะยากมากๆ แต่เราก็มีประสบการณ์มาก่อน แต่เต่าตัวนี้มีน้ำหนักถ่วงท้องเพราะเหรียญมาก ทำให้เวลาเดินกระดองต้องไปขูดกับพื้น จนทำให้มีจุดที่กระดองอ่อนซึ่งมีขนาดเท่าฝ่ามือ เราเลยตัดสินใช้จุดนั้นผ่าตัดเอาเหรียญออก ความยากต่อมาก็คือ เมื่อเปิดกระดองแล้ว ลำไส้มันบวม ทำให้มองอะไรไม่เห็น แต่พอเอามือคลำก็พบก้อนโลหะขนาดหนัก 5 กิโลกกรัมที่ยกไม่ขึ้น เราเป็นห่วงว่าถ้าทำอะไรรุนแรงแล้ว อวัยวะภายในมันจะฉีกขาด อีกทั้งร่างกายของมันก็สร้างเกล็ดเลือดเพิ่มเติมเต็มไปหมด เพื่อให้กระเพาะมันสามารถอุ้มโลหะขนาดหนักนี้ได้ ถ้าเราไม่ทำอย่างระวังเลือดก็จะไหลออก อาจทำให้มันเสียชีวิตเพราะขาดเลือดได้ เราจึงค่อยๆ เปิดช่อง ค่อยๆ ทำโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
สำหรับการเอาเหรียญออกจากท้องนั้น เราไม่ได้ผ่าเอาออกเป็นก้อนใหญ่ แต่ต้องคอยคีบทีละเหรียญ สองเหรียญ อีกทั้งข้างในมีเศษอาหาร ก้อนกรวด แท่งโลหะ เส้นลวด ซึ่งมันถูกอัดรวมกันแน่นมาก จนบางส่วนต้องเอาน้ำเข้าไปละลาย แล้วแคะๆ เอาเหรียญออกทีละน้อย ยืนรวมๆ กัน 6 ชั่วโมง
“ต้องยอมรับว่า ตกใจที่เห็นเหรียญจำนวนมากอยู่ในท้องของเต่า แล้วก็รู้สึกโมโหว่าทำไมต้องมาทำกับสัตว์ขนาดนี้ แม้จะเกิดขึ้นจากความไม่รู้ก็ตาม ตนเลยได้โพสลงเฟสบุ๊คส่วนตัวว่าอย่าทำแบบนี้ จนเป็นที่มาของการแชร์ในโลกออนไลน์ ซึ่งวัตถุประสงค์ของเราจริงๆ คืออยากให้คนเปลี่ยนใจเลิกโยนเหรียญลงบ่อเต่า”
เอาเหรียญออกหมดก็ยังไม่จบ เพราะร่างกายเต่าดูดซึมสารโลหะแล้ว
ก่อนหน้านี้หมอหนิ่งแถลงข่าวว่า เหรียญที่อยู่ในท้องเต่านั้นโดนกรดกัดจนเป็นสีดำ ซึ่งทำให้มีสารโลหะเข้าไปปนเปื้อนในร่างกายเต่า ในส่วนนี้เองหมอหนิ่งเล่าว่า เราได้ตรวจสอบตับของเขาแล้ว ก็ยังใช้การได้อยู่ แต่ว่าก็แย่ไปเยอะแล้ว ซึ่งเราก็ต้องดูอาการต่อไป ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ค้องค่อยๆ เอาสารโลหะหนักออกจากตับ ตอนนี้เราห่วงแค่ว่าเอาให้มันมีชีวิตรอดก่อน ส่วนที่เหลือค่อยๆ ทยอยทำ ถ้าทำอะไรรุนแรงมาพร้อมๆ กันร่างกายเขาก็จะไม่ไหว
“อาการของเจ้าออมสินตอนนี้ก็ดูดีมากขึ้นแล้ว พอตัวเขาเบาขึ้นก็เดินใหญ่เลย เรียนตรงๆ ก็ดีกว่าที่คิดไว้ เพราะบางครั้งที่เราผ่าตัดสัตว์ แล้วมันจะมีอาการซึม แต่ก็ยัง บอกไม่ได้ว่าจะกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติไหม ต้องรอดูกันไปอีก 1 อาทิตย์ ยังบอกอะไรไม่ได้” เธอเล่าถึงอาการของเจ้าออมสิน วันแรกๆ หลังผ่าตัดเสร็จ
เปิดใจหมอ ถึงความรู้ทั้งก่อนและหลังผ่าตัดเสร็จ
หมอหนิ่งเล่าวว่า ส่วนตัวเอง มีความเป็นห่วงเขามาก เพราะเป็นการตัดสินใจที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตของเขา และยังเสี่ยงต่อชื่อเสียงของเราด้วย หากผิดพลาด บางคนก็คิดว่ายังไงมันก็ตายอยู่แล้ว แต่ถ้าทำมันตายในการผ่าตัดหมอจะเสียชื่อด้วย แต่เราในฐานะที่เป็นสัตวแพทย์ เราคิดว่า แม้เขาจะมีโอกาสรอดเพียง 1% เราก็อยากจะทำ การที่มีก้อนโลหะขนาดใหญ่ในช่องท้อง ปล่อยไว้ยังไงเขาก็ตาย โดยการผ่าตัดครั้งนี้คิดเป็นเงินมูลค่าหลายแสน ค่ายาต่างๆ แต่ทางคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้การสนับสนุน อีกทั้งยังมีภาคส่วนอื่นๆ ร่วมด้วย
เมื่อเสร็จสิ้นการผ่าตัดแล้ว เราก็รู้เลยว่าพวกเราทุกคนตัดสินใจถูกแล้ว นอกจากเต่าจะรอดชีวิตแล้ว เราเองก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ส่วนตัวเองก็ภูมิใจที่มีทีมงานยอดเยี่ยม ที่ดีสุดๆ คือการที่เราเห็นเขาเดินได้ในคืนที่เราผ่าตัดเสร็จ เราคิดว่าขนาดเขายังอยากมีชีวิต เรามีหน้าที่รักษาเขา ทำไมเราจะไม่ทำ
“แค่อยากจะบอกว่า เวลาจะทำอะไรที่มีสัตว์อยู่ ช่วยดูนิดหน่อยว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำไม่ว่าจะเพื่อสัตว์ หรือเพื่อตัวเอง ให้คิดว่าสิ่งนั้นจะสร้าผลกระทบอะไรตามมาหรือไม่ แต่ที่จริงแล้วส่วนตัวอยากให้ผู้ที่ดูแลสถานที่เหล่านี้ สนใจมากกว่านี้หน่อย พอมีอะไรหล่นปุ๊บก็เก็บเลย แล้วก็อย่าให้สัตว์มีอาการเครียดมาก เพราะถ้าเขาเครียดเขาก็จะกินสิ่งแปลกปลอมเพิ่มขึ้น สัตว์ก็ทำคุณประโยชน์ หารายได้ให้กับเรา เราก็ช่วยดูแลเขาดีๆ หน่อย สิ่งที่ทำคุณให้เรา เราก็ต้องระวังไม่ให้เขาได้รับผลกระทบด้วย” หมอหนิ่งกล่าวทิ้งท้าย
นี่ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่เราควรให้ความสนใจ จริงๆ แล้วประเด็นไม่ได้จบที่การช่วยเหลือเจ้าออมสินได้สำเร็จ หากแต่อยู่ที่พฤติกรรมของคนด้วย บางครั้งหลายๆ คนต้องการทำความดี ตามความเชื่อ แต่สุดท้ายอาจได้บาปกลับมาแทน เจ้าออมสินถือเป็นเคสที่โชคดี ที่ได้รับการรักษาเต็มที่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีสัตว์อื่นๆ ต้องคอยกินสิ่งแปลกปลอมอันเกิดจากการโยนเข้าไปในที่อยู่อาศัยของมัน โดยน้ำมือมนุษย์ ในฐานะที่เราเป็ฯมนุษย์มีความคิดวิเคราะห์ได้ ควรแล้วหรือที่จะทำอะไร โดยไม่คิดถึงเพื่อนร่วมโลกที่อยู่กับเรา.
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.komchadluek.net
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด